24 เมษายน 2563 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานศูนย์ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการตรวจหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงยังน้อยมาก หากเทียบกับหลายๆ ประเทศ

ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมีการตรวจหาเชื้อจากประชาชนเพียง 70,000-80,000 คนเท่านั้น ตั้งแต่มีการระบาดเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ควรมีการตรวจมากกว่านี้ รัฐบาลต้องไม่ละเลยการป้องกันชีวิตประชาชน ไม่จำเป็นต้องปูพรมตรวจก็ได้ เพียงตรวจคนใกล้ชิดคนที่ติดเชื้อและอยู่ในกระบวนการรักษา อาทิ คนในครอบครัว เพื่อนบ้าน รวมไปถึงผู้สูงอายุ อย่าไปมุ่งตรวจคนที่มีอาการ หรือไปมุ่งที่คนเคยไปสถานที่เสี่ยงเท่านั้น นอกจากนี้ รัฐต้องรายงานให้ครบถ้วน ทั้งการตรวจหา การรักษา ไม่ใช่รายงานอย่างที่เป็นอยู่ เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร อีกทั้งรายงานของสาธารณะสุขในต่างประเทศ พบว่าคนติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการพบมากกว่าคนที่ติดเชื้อแล้วแสดงอาการ ดังนั้น โอกาสที่จะมีการแพร่เชื้อในอนาคตนั้นมีได้มาก หากรัฐไม่ทำอะไรเลย

“สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ประชาชนบางส่วนที่ต้องอยู่ศูนย์กักกันเชื้อตามสถานที่ต่างๆในหลายจังหวัด ยังคงน่ากังวล ทั้งนี้มีหลายคนที่จากไม่ติดเชื้อกลับกลายเป็นว่ามาติดเชื้อภายในศูนย์กักกัน ดังนั้น รัฐต้องมีมาตรการที่ดีกว่านี้ ในการกักกันเพื่อดูอาการ อาทิ โรงเรียน หรือ โรงแรมที่มีอยู่ ใช้เป็นศูนย์กักกัน แล้วให้นอนเพียงห้องละ 1 คนเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย จะเสียงบประมาณเท่าไหร่รัฐก็ต้องยอม เพราะคือเงินภาษีของประชาชน ซึ่งควรนำมาใช้ในการปกป้องชีวิตประชาชน”