ซึ่งตนและพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ทักท้วงให้รัฐบาลบริหารประเทศด้วยความรอบคอบ ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ในเรื่องการแก้ไขความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างเต็มที่ 

วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง อะไรที่ฝ่ายค้านเห็นว่าควรจะทำ จะขอนำเสนออย่างตรงไปตรงมา โดยหวังว่ารัฐบาลจะเปิดใจรับฟังข้อเสนอ และความปรารถนาดี เพื่อดูแลรักษาชีวิตของพี่น้องชาวไทยให้ปลอดภัยที่สุด โดยทุกคนคิดภายใต้พื้นฐานเดียวกันว่า เราจะรอดไปด้วยกัน และประเทศไทยต้องชนะ

การแก้วิกฤติของชาติครั้งนี้มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญคือ การตัดสินใจของผู้นำ และความร่วมมือจากทุกฝ่าย ณ เวลานี้ ทุกฝ่ายร่วมมือกันจนแทบจะเกินร้อยอยู่แล้ว ปัญหาจึงมาคอขวดอยู่ที่ “การตัดสินใจของผู้นำ” หาก ”ผู้นำ” ไม่คิดบนพื้นฐานความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก มัวแต่คิดเอาใจเถ้าแก่ ที่ดีดลูกคิด คำนวณกำไร-ขาดทุนรายวัน เฉพาะแต่ธุรกิจตัวเอง การตัดสินใจก็จะผิดเพี้ยน แก้ปัญหาไม่ได้ สถานการณ์ทั่วไปก็จะเข้าสู่โหมดเลี้ยงไข้-อมโรค และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ความเสียหายโดยรวมก็จะมากกว่ากันนับสิบนับร้อยเท่า

การตัดสินใจแก้ปัญหาโควิด โดยรวมคล้ายกับเรื่องหน้ากากอนามัย ซึ่งหากนายกฯ จริงใจ – ใส่ใจที่จะแก้ไข ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย และแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย  ซึ่งการแก้ปัญหาหน้ากาก ถ้าคิดกำไร-ขาดทุนเฉพาะหน้า ยังไงหน้ากากก็หมดประเทศ หน้ากากขายเมืองไทยได้กำไร 50 สตางค์ ขายเมืองนอกกำไร 20 บาท หากผู้นำปล่อยให้คนใกล้ชิดผู้เกี่ยวข้อง ลักลอบส่งออกไปเรื่อยๆ ฟันกำไรเป็นกอบเป็นกำ  5 ล้านชิ้นกำไร 100 ล้านบาท  และ 10 ล้านชิ้นกำไร 200 ล้านบาท ผลิตมาเยอะเท่าไหร่ ก็ได้เงินเข้ากระเป๋าเยอะเท่านั้น แต่คนไทยไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ 

ปัญหาหน้ากากขาดแคลนนั้น แม้กระทั่งบุคลากรทางการแพทย์ ก็ยังมีหน้ากากใช้ไม่เพียงพอ ประชาชนต้องมาเรี่ยไรบริจาคให้แล้วแบบนี้คนไทยจะชนะได้อย่างไร

ปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย แก้ไขได้ไม่ยาก แต่นายกฯ ก็ยังปล่อยให้เป็นปัญหาระดับชาติได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหาสถานการณ์  Covid-19 หนักหนาสาหัสกว่ากันเยอะ นายกฯ ต้องเร่งแก้ไขความผิดพลาดอย่าให้เกิดวิกฤติซ้ำเติมคนไทยอีก แสดงลักษณะผู้นำ แยก GoodGuy BadGuy ให้ถูก กล้าตัดสินใจและทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ผู้รู้ต่างก็แนะนำเป็นเสียงเดียวกัน

“ได้เสนอยุทธการ 21วันสยบโควิดมาหลายวันแล้ว นายกฯ จะเปลี่ยนชื่อโครงการก็ได้ จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ แต่นายกฯ ต้องทำ และทำตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง ครบถ้วน ตามที่ได้นำเสนอด้วย แนวทางในภาพรวมคือ สแกนทั้งประเทศ นำผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้า Quarantine ให้เร็วที่สุด ไม่สามารถแพร่เชื้อต่อได้ เชื้อใหม่ต้องไม่เข้าประเทศไทยเพิ่ม ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษา เชื้อเก่าต้องฆ่าเชื้อทำความสะอาด ทำเร็ว-จบเร็ว ป่วยตายน้อย โรงพยาบาลรับไหว เศรษฐกิจฟื้นเร็ว ถ้าทำช้า-จบช้า ป่วยตายเยอะ โรงพยาบาลไม่เพียงพอ เศรษฐกิจฟื้นยาก แสดงลักษณะผู้นำ กล้าตัดสินใจ ใช้ PowerofNow กำหนดวันให้ประชาชนเตรียมตัวชัดเจน” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ